บทสวด ป๋าระมี ๓๐ ตั๊ด ปฏิบัติตามแนววิถีครูบาเจ้าศรีวิชัย



        นะโม  ตัสสะ  ภะคะวะโต  อะระหะโต  สัมมาสัมพุทธัสสะ  (ว่า ๓ ครั้ง)

        พุทธัง  สะระณัง  คัจฉามิ  ธัมมัง  สะระณัง  คัจฉามิ  สังฆัง  สะระณัง  คัจฉามิ  ทุติยัมปิ  พุทธัง  สะระณัง  คัจฉามิ  ทุติยัมปิ  ธัมมัง  สะระณัง  คัจฉามิ  ทุติยัมปิ  สังฆัง  สะระณัง  คัจฉามิ  ตะติยัมปิ  พุทธัง  สะระณัง  คัจฉามิ  ตะติยัมปิ  ธัมมัง  สะระณัง  คัจฉามิ  ตะติยัมปิ  สังฆัง  สะระณัง  คัจฉามิ

        อิติปิโส  ภะคะวา  อะระหัง  สัมมาสัมพุทโธ  วิชชาจะระณะสัมปั๋นโน  สุขโต  โลกะวิทู  อนุตตะโร  ปุริสสะทัมมะสาระถิ  สัตถา  เทวะมะนุสสานัง  พุทโธ  ภะคะวาติ
        สวากขาโต  ภะคะวะตา  ธัมโม  สันทิฏฐิโก  อะกาลิโก  เอหิปัสสิโก  โอปะนะยิโก  ปัจจัตตัง  เวทิตัพโพ  วิญญูฮีติ
        สุปะฏิปันโน  ภะคะวะโต  สาวะกะสังโฆ  อุชุปะฏิปันโน  ภะคะวะโต  สาวะกะสังโฆ  ญายะปะฏิปันโน  ภะคะวะโต  สาวะกะสังโฆ  สามีจิปะฏิปันโน  ภะคะวะโต  สาวะกะสังโฆ  ยะทิทัง  จัตตาริ  ปุริสะยุคานิ  อัฏฐปุริสปุคคะลา  เอสะ  ภะคะวะโต  สาวะกะสังโฆ  อาหุเนยโย  ปาหุเนยโย  ทักขิเนยโย  อัญชะลีกะระณีโย  อนุตตะรัง  ปุญญักเขตตัง  โลกัสสาติ

        ตานะป๋าระมี สัมปั๋นโน ตานะอุปะป๋าระมี สัมปั๋นโน ตานะปะระมัตถะป๋าระมี สัมปั๋นโน เมตต๋า ไมตรี กรุณา มุตูต๋า อุเปกขา ป๋าระมีสัมปั๋นโน อิติปิโส ภะก๊ะวาฯ 
        สีละป๋าระมี สัมปั๋นโน สีละอุปะป๋าระมี สัมปั๋นโน สีละปะระมัตถะป๋าระมี สัมปั๋นโน เมตต๋า ไมตรี กรุณา มุตูต๋า อุเปกขา ป๋าระมีสัมปั๋นโน อิติปิโส ภะก๊ะวาฯ 
        เนกขัมมะป๋าระมี สัมปั๋นโน เนกขัมมะอุปะป๋ารมี สัมปั๋นโน เนกขัมมะปะระมัตถะป๋ารมี สัมปั๋นโน เมตต๋า ไมตรี กรุณา มุตูต๋า อุเปกขา ป๋าระมีสัมปั๋นโน อิติปิโส ภะก๊ะวาฯ 
        ปั๋ญญาป๋าระมี สัมปั๋นโน ปั๋ญญาอุปะป๋ารมี สัมปั๋นโน ปั๋ญญาปะระมัตถะป๋ารมี สัมปั๋นโน เมตต๋า ไมตรี กรุณา มุตูต๋า อุเปกขา ป๋าระมีสัมปั๋นโน อิติปิโส ภะก๊ะวาฯ 
        วิริยะป๋าระมี สัมปั๋นโน วิริยะอุปะป๋ารมี สัมปั๋นโน วิริยะปะระมัตถะป๋ารมี สัมปั๋นโน เมตต๋า ไมตรี กรุณา มุตูต๋า อุเปกขา ป๋าระมีสัมปั๋นโน อิติปิโส ภะก๊ะวาฯ
        ขันตี๋ป๋าระมี สัมปั๋นโน ขันตี๋อุปะป๋ารมี สัมปั๋นโน ขันตี๋ปะระมัตถะป๋ารมี สัมปั๋นโน เมตต๋า ไมตรี กรุณา มุตูต๋า อุเปกขา ป๋าระมีสัมปั๋นโน อิติปิโส ภะก๊ะวาฯ
        สัจจะป๋าระมี สัมปั๋นโน สัจจะอุปะป๋ารมี สัมปั๋นโน สัจจะปะระมัตถะป๋ารมี สัมปั๋นโน เมตต๋า ไมตรี กรุณา มุตูต๋า อุเปกขา ป๋าระมีสัมปั๋นโน อิติปิโส ภะก๊ะวาฯ
        อะธิฏฐานะป๋าระมี สัมปั๋นโน อะธิฏฐานะอุปะป๋ารมี สัมปั๋นโน อะธิฏฐานะปะระมัตถะป๋ารมี สัมปั๋นโน เมตต๋า ไมตรี กรุณา มุตูต๋า อุเปกขา ป๋าระมีสัมปั๋นโน อิติปิโส ภะก๊ะวาฯ
        เมตต๋าป๋าระมี สัมปั๋นโน เมตต๋าอุปะป๋ารมี สัมปั๋นโน เมตต๋าปะระมัตถะป๋ารมี สัมปั๋นโน เมตต๋า ไมตรี กรุณา มุตูต๋า อุเปกขา ป๋าระมีสัมปั๋นโน อิติปิโส ภะก๊ะวาฯ
        อุเปกขาป๋าระมี สัมปั๋นโน อุเปกขาอุปะป๋ารมี สัมปั๋นโน อุเปกขาปะระมัตถะป๋ารมี สัมปั๋นโน เมตต๋า ไมตรี กรุณา มุตูต๋า อุเปกขา ป๋าระมีสัมปั๋นโน อิติปิโส ภะก๊ะวาฯ
        ต๊ะสะป๋าระมี สัมปั๋นโน ต๊ะสะอุปะป๋ารมี สัมปั๋นโน ต๊ะสะปะระมัตถะป๋ารมี สัมปั๋นโน เมตต๋า ไมตรี กรุณา มุตูต๋า อุเปกขา ป๋าระมีสัมปั๋นโน อิติปิโส ภะก๊ะวาฯ

        สะมะติ๋งสะป๋าระมี สัมปันโน อิติปิโส ภะก๊ะวา อิติปิ


(คำแปล)

     ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า พระองค์นั้น ซึ่งเป็นผู้ไกลจากกิเลส เป็นผู้ตรัสรู้ด้วยพระองค์เอง

     ข้าพเจ้าขอเข้าถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ว่าเป็นที่พึ่ง ที่ระลึก แม้ครั้งที่ ๑ แม้ครั้งที่ ๒ แม้ครั้งที่ ๓

     เพราะเหตุอย่างนี้ๆ พระผู้มีพระภาคเจ้านั้นเป็นผู้ไกลจากกิเลส และตรัสรู้ด้วยพระองค์เองโดยชอบ เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะเป็นผู้ไปแล้วด้วยดี เป็นผู้รู้โลกอย่างแจ่มแจ้ง เป็นผู้สามารถฝึกบุรุษที่สมควรฝึกได้อย่างไม่มีใครยิ่งกว่า เป็นครูผู้สอนของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย เป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานด้วยธรรม เป็นผู้มีความเจริญ เป็นผู้จำแนกธรรมสั่งสอนสัตว์ดังนี้
     พระธรรมที่พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสไว้ดีแล้ว เป็นสิ่งที่ผู้ศึกษาและปฏิบัติพึงเห็นได้ด้วยตนเอง เป็นสิ่งที่ปฏิบัติได้ และให้ผลได้ ไม่จำกัดกาล เป็นสิ่งที่ควรกล่าวกับผู้อื่นว่าท่านจงมาดูเถิด เป็นสิ่งที่ควรน้อมเข้ามาใส่ตัว เป็นสิ่งที่ผู้รู้พึงรู้ได้เฉพาะตน ดังนี้
     พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า หมู่ใด, ปฏิบัติดีแล้ว
พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า หมู่ใด, ปฏิบัติตรงแล้ว
พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า หมู่ใด, ปฏิบัติธรรมเป็นเครื่องออกจากทุกข์แล้ว
พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า หมู่ใด, ปฏิบัติสมควรแล้ว
ได้แก่ บุคคลเหล่านี้คือ คู่แห่งบุรุษ ๔ คู่ นับเรียงตัวบุรุษได้ ๘ บุรุษ นั่นแหละพระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า ท่านเป็นผู้ควรแก่สักการะที่เขานำมาบูชา เป็นผู้ควรแก่สักการะที่เขาจัดไว้ต้อนรับ เป็นผู้ควรรับทักษิณาทาน เป็นผู้ที่บุคคลทั่วไปควรทำอัญชลี เป็นเนื้อนาบุญของโลก ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า ดังนี้

     พระผู้มีพระภาคเจ้า พระองค์นั้นแล ทรงถึงพร้อมแล้ว ซึ่ง บารมีคือทาน ทรงถึงพร้อมแล้ว ซึ่งการเกิดขึ้นแห่งทานบารมี ทรงถึงพร้อมแล้วซึ่งบารมีคือทานอันมีประโยชน์สูงสุดอย่างยิ่ง ทรงถึงพร้อมแล้วซึ่งพระเมตตาบารมี ทรงถึงพร้อมแล้วซึ่งพระไมตรีบารมี ทรงถึงพร้อมแล้วซึ่งพระกรุณาบารมี ทรงถึงพร้อมแล้วซึ่งพระมุทิตาบารมี ทรงถึงพร้อมแล้วซึ่งพระอุเบกขาบารมี

     พระผู้มีพระภาคเจ้า พระองค์นั้นแล ทรงถึงพร้อมแล้วซึ่ง บารมีคือศีล ทรงถึงพร้อมแล้ว ซึ่งการเกิดขึ้นแห่งศีลบารมี ทรงถึงพร้อมแล้วซึ่งบารมีคือศีลอันมีประโยชน์สูงสุดอย่างยิ่ง ทรงถึงพร้อมแล้วซึ่งพระเมตตาบารมี ทรงถึงพร้อมแล้วซึ่งพระไมตรีบารมี ทรงถึงพร้อมแล้วซึ่งพระกรุณาบารมี ทรงถึงพร้อมแล้วซึ่งพระมุทิตาบารมี ทรงถึงพร้อมแล้วซึ่งพระอุเบกขาบารมี

     พระผู้มีพระภาคเจ้า พระองค์นั้นแล ทรงถึงพร้อมแล้ว ซึ่ง บารมีคือเนกขัมมะ ทรงถึงพร้อมแล้ว ซึ่งการเกิดขึ้นแห่งเนกขัมมะบารมี ทรงถึงพร้อมแล้วซึ่งบารมีคือเนกขัมมะอันมีประโยชน์สูงสุดอย่างยิ่ง
ทรงถึงพร้อมแล้วซึ่งพระเมตตาบารมี ทรงถึงพร้อมแล้วซึ่งพระไมตรีบารมี ทรงถึงพร้อมแล้วซึ่งพระกรุณาบารมี ทรงถึงพร้อมแล้วซึ่งพระมุทิตาบารมี ทรงถึงพร้อมแล้วซึ่งพระอุเบกขาบารมี

     พระผู้มีพระภาคเจ้า พระองค์นั้นแล ทรงถึงพร้อมแล้ว ซึ่ง บารมีคือปัญญา ทรงถึงพร้อมแล้ว ซึ่งการเกิดขึ้นแห่งปัญญาบารมี ทรงถึงพร้อมแล้วซึ่งบารมีคือปัญญาอันมีประโยชน์สูงสุดอย่างยิ่ง ทรงถึงพร้อมแล้วซึ่งพระเมตตาบารมี ทรงถึงพร้อมแล้วซึ่งพระไมตรีบารมี ทรงถึงพร้อมแล้วซึ่งพระกรุณาบารมี ทรงถึงพร้อมแล้วซึ่งพระมุทิตาบารมี ทรงถึงพร้อมแล้วซึ่งพระอุเบกขาบารมี

     พระผู้มีพระภาคเจ้า พระองค์นั้นแล ทรงถึงพร้อมแล้ว ซึ่ง บารมีคือวิริยะ ทรงถึงพร้อมแล้ว ซึ่งการเกิดขึ้นแห่งวิริยะบารมี ทรงถึงพร้อมแล้วซึ่งบารมีคือวิริยะอันมีประโยชน์สูงสุดอย่างยิ่ง ทรงถึงพร้อมแล้วซึ่งพระเมตตาบารมี ทรงถึงพร้อมแล้วซึ่งพระไมตรีบารมี ทรงถึงพร้อมแล้วซึ่งพระกรุณาบารมี ทรงถึงพร้อมแล้วซึ่งพระมุทิตาบารมี ทรงถึงพร้อมแล้วซึ่งพระอุเบกขาบารมี

     พระผู้มีพระภาคเจ้า พระองค์นั้นแล ทรงถึงพร้อมแล้ว ซึ่ง บารมีคือขันติ ทรงถึงพร้อมแล้ว ซึ่งการเกิดขึ้นแห่งขันติบารมี ทรงถึงพร้อมแล้วซึ่งบารมีคือขันติอันมีประโยชน์สูงสุดอย่างยิ่ง ทรงถึงพร้อมแล้วซึ่งพระเมตตาบารมี ทรงถึงพร้อมแล้วซึ่งพระไมตรีบารมี ทรงถึงพร้อมแล้วซึ่งพระกรุณาบารมี ทรงถึงพร้อมแล้วซึ่งพระมุทิตาบารมี ทรงถึงพร้อมแล้วซึ่งพระอุเบกขาบารมี

     พระผู้มีพระภาคเจ้า พระองค์นั้นแล ทรงถึงพร้อมแล้ว ซึ่ง บารมีคือสัจจะ ทรงถึงพร้อมแล้ว ซึ่งการเกิดขึ้นแห่งสัจจะบารมี ทรงถึงพร้อมแล้วซึ่งบารมีคือสัจจะอันมีประโยชน์สูงสุดอย่างยิ่ง ทรงถึงพร้อมแล้วซึ่งพระเมตตาบารมี ทรงถึงพร้อมแล้วซึ่งพระไมตรีบารมี ทรงถึงพร้อมแล้วซึ่งพระกรุณาบารมี ทรงถึงพร้อมแล้วซึ่งพระมุทิตาบารมี ทรงถึงพร้อมแล้วซึ่งพระอุเบกขาบารมี

     พระผู้มีพระภาคเจ้า พระองค์นั้นแล ทรงถึงพร้อมแล้ว ซึ่ง บารมีคืออธิษฐาน ทรงถึงพร้อมแล้ว ซึ่งการเกิดขึ้นแห่งอธิษฐานบารมี ทรงถึงพร้อมแล้วซึ่งบารมีคืออธิษฐานอันมีประโยชน์สูงสุดอย่างยิ่ง ทรงถึงพร้อมแล้วซึ่งพระเมตตาบารมี ทรงถึงพร้อมแล้วซึ่งพระไมตรีบารมี ทรงถึงพร้อมแล้วซึ่งพระกรุณาบารมี ทรงถึงพร้อมแล้วซึ่งพระมุทิตาบารมี ทรงถึงพร้อมแล้วซึ่งพระอุเบกขาบารมี

     พระผู้มีพระภาคเจ้า พระองค์นั้นแล ทรงถึงพร้อมแล้ว ซึ่ง บารมีคือเมตตา ทรงถึงพร้อมแล้ว ซึ่งการเกิดขึ้นแห่งเมตตาบารมี ทรงถึงพร้อมแล้วซึ่งบารมีคือเมตตาอันมีประโยชน์สูงสุดอย่างยิ่ง ทรงถึงพร้อมแล้วซึ่งพระเมตตาบารมี ทรงถึงพร้อมแล้วซึ่งพระไมตรีบารมี ทรงถึงพร้อมแล้วซึ่งพระกรุณาบารมี
ทรงถึงพร้อมแล้วซึ่งพระมุทิตาบารมี ทรงถึงพร้อมแล้วซึ่งพระอุเบกขาบารมี

     พระผู้มีพระภาคเจ้า พระองค์นั้นแล ทรงถึงพร้อมแล้ว ซึ่ง บารมีคืออุเบกขา ทรงถึงพร้อมแล้ว ซึ่งการเกิดขึ้นแห่งอุเบกขาบารมี ทรงถึงพร้อมแล้วซึ่งบารมีคืออุเบกขาอันมีประโยชน์สูงสุดอย่างยิ่ง ทรงถึงพร้อมแล้วซึ่งพระเมตตาบารมี ทรงถึงพร้อมแล้วซึ่งพระไมตรีบารมี ทรงถึงพร้อมแล้วซึ่งพระกรุณาบารมี ทรงถึงพร้อมแล้วซึ่งพระมุทิตาบารมี ทรงถึงพร้อมแล้วซึ่งพระอุเบกขาบารมี

     พระผู้มีพระภาคเจ้า พระองค์นั้นแล ทรงถึงพร้อมแล้ว ซึ่ง บารมีคือทศบารมี ทรงถึงพร้อมแล้ว ซึ่งการเกิดขึ้นแห่งทสบารมี ทรงถึงพร้อมแล้วซึ่งบารมีคือทสบารมีอันมีประโยชน์สูงสุดอย่างยิ่ง ทรงถึงพร้อมแล้วซึ่งพระเมตตาบารมี ทรงถึงพร้อมแล้วซึ่งพระไมตรีบารมี ทรงถึงพร้อมแล้วซึ่งพระกรุณาบารมี ทรงถึงพร้อมแล้วซึ่งพระมุทิตาบารมี ทรงถึงพร้อมแล้วซึ่งพระอุเบกขาบารมี